โรคร้ายที่มากับหน้าร้อน
เสร็จจากศึกใหญ่มหาอุทกภัย ประชาชนคนไทยก็ได้รื่นเริงกับปีใหม่ตอนน้ำลดหมาดๆ พอให้สัมผัสอากาศหนาวเย็นชื่นใจกันไปได้แป๊บหนึ่ง เดือนหน้าก็จะย่างเข้าฤดูร้อนซะแล้ว อากาศที่อบอ้าวที่กำลังเดินทางมาถึง นอกจากทำให้เราร้อนกาย เหงื่อไหลออกติ๋งๆ ให้หงุดหงิดแล้วยังเป็นช่วงที่เหล่าเชื้อโรคบางชนิดที่เคยสงบหลังน้ำลดกลับมาร่าเริงดุจได้ชีวิตใหม่ คราวนี้จะแฝงตัวมากับอาหาร น้ำดื่มหรือสภาวะอากาศ
ศึกน้ำท่วมเราก็ “เอาอยู่” ผ่านมาได้แล้ว ครานี้เพื่อให้เราได้รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมรับมือกับโรคฮิตในช่วงหน้าร้อน มาดูว่าเราต้องผจญภัยกับโรคร้ายอะไรมั่ง
โรคภัยที่มากับอากาศร้อน-แพ้ลมร้อน เป็นลม เพราะอากาศร้อน
หน้าร้อนบ้านเรามักจะกระหน่ำด้วยความร้อนและความชื้นอุณหภูมิของการที่ร้อนระอุมากขึ้นทั้งที่มาจากแสงแดดที่ส่องโดยตรงหรือสะท้อนมาจากสิ่งแวดล้อมรอบกายเราเป็นเวลานานๆ รวมไปกับความชื้นในอากาศสูง ย่อมส่งผลให้เหงื่อระเหยระบายความร้อนออกได้น้อย ความอบอ้าวที่สะสมในร่างกายเรา ทำให้เกิดอันตรายจากความร้อนได้ง่าย
ยิ่งหากเราสภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่งกายไม่เข้ากับสภาพอากาศ บางคนก็ต้องไปออกกำลังกาย หรือทำงานกลางแดดร้อนๆนานๆ จะทำให้เกิดอาการหมดสติเป็นลม หรือที่เรียกกันว่าแพ้อากาศร้อน เป็นลมเนื่องจากอากาศร้อน (Heat Syncope หรือ Heat Collapse) ชึ้น
อาการที่พบบ่อยคือ ร้อน อึดอัด หายใจขัด และหอบถี่ ปากแห้งผาก สายตาฝ้ามัว และคลื่นไส้อาเจียน ผิวหนังแห้ง วิเวียนคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย บางรายอาจมีอาการโซเซถึงกับเป็นลมหมดสติในที่สุด หากจับชีพจรจะพบว่าเบาและเร็ว ความดันโลหิตจะต่ำ และพบอาการขาบวมในรายที่ยืนนาน การรักษาก็รีบนำคนไข้ไปนอนพักในที่ร่ม ยกขาสูงๆ เช็ดตัว ด้วยน้ำเย็น แล้วให้ดื่มน้ำหรือน้ำเกลือจิบอย่างช้าๆ
ภัยร้ายที่มากับแสงแดด-ผิวไหม้แดด
นอกจากความร้อนจากการอยู่กลางแดดนานๆ แสงแดดที่สาดส่องโดยตรงกับผิวเรามีผลต่อร่างกายไม่น้อย ทำให้เกิดผิวไหม้แดด หรือ Sun Burn ขึ้นมาได้ หากถ้าเราต้องการไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน อาการไหม้แดด จะเกิดเร็วหรือช้าจะขึ้นอยู่กับสีผิวและการเตรียมการปกป้องของแต่ละคน ถ้าเรามีผิวขาวมากหรือไม่ได้ทาครีมป้องกันผิวก็จะยิ่งไหม้เร็วและมีอาการบวมแดงร้อน ปวดแสบปวดร้อน บางรายอาจมีอาการคัน ระคายเคืองร่วมด้วย
ถ้ารู้ว่าต้องไปกลางแจ้ง ควรเลี่ยงการออกแดด หรือต้องใช้ครีมกันแดด ครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ครีมเคลือบผิว ทางป้องกันเพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิวหนัง และหากระคายเคือง ร้อน บวมแดงมากๆ อาจจำเป็นต้องใช้ยาทาจำพวกแอนติฮิสตามีนเพื่อลดอาการคัน
โรคร้ายที่มากับอาหาร
มหัตภัยโรคที่มาโจมตีจากการกินก็คือ “โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)” เกิดจากการที่เราเผลอไปกินเชื้อโรค หรือสารพิษของเชื้อโรคที่ปนอยู่ในอาหารเข้าไปในทางเดินอาหาร สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไป โรคนี้บางครั้งอาจเกิดกับกลุ่มคนใหญ่ๆ โดยการกินอาหารปนเปื้อนชนิดเดียวกันหรือข้าวกล่องที่สั่งมาจากเจ้าเดียวกัน เราจึงแนะนำให้กินแต่ อาหารปรุงสุก สะอาด หากไม่แล้ว อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วทิ้งไว้นาน หรือที่ไม่ได้เก็บแช่ไว้ในตู้เย็นหรือนำมาอุ่นให้ร้อนอยู่เสมอ
อาการของโรคมักเกิดง่ายกับเด็กและคนชราที่มีภูมิต้านทานน้อย มักเกิดภายใน 2-6 ชั่วโมง หลังจากกินอาหารปนเปื้อนเชื้อ หรือสารพิษของเชื้อเข้าไป มักตามมาด้วยอาการมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางครั้งมีการอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ยิ่งถ้าถ่ายอุจจาระมาก จะเกิดอาการขาดน้ำและสารเกลือแร่ในร่างกาย อ่อนเพลียระโหยอย่างมาก การป้องกันที่ดีคือควรกินอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ๆ ไม่กินอาหารที่เก็บไว้ค้างคืนนานๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคโดยไม่จำเป็น การรักษาหากเป็นไม่มาก ถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีมูกเลือด ไม่มีไข้ จะหายได้เอง แต่ถ้าเป็นมากต้อง ต้องได้รับน้ำเกลือเสริม อาจอยู่ในรูปของการดื่ม หรือการให้ทางหลอดเลือด แล้วแต่ความรุนแรง
อีกโรคหนึ่งที่ชื่อคล้ายกันคือ “โรคอุจจาระร่วง (Acute Diarrhea)” โรคนี้ติดต่อทางอาหารและน้ำ เกิดจากแบคทีเรียเชื้อไวรัสโปโตซัวและหนอนพยาธิ เชื้อเหล่านี้สามารถติดต่อได้โดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป อาการจะเหมือนกับอันแรกคือ ถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ เป็นมากๆ จะมีมูกปนเลือด มักจะอาเจียนร่วมด้วย แต่ความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันได้มาก การดูแลผู้ป่วยในระยะแรก ควรดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ อาทิ น้ำข้าว น้ำแกงจืด และดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ยังไม่หยุดถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์
ภัยร้ายมฤตยูจากสัตว์สู่คน-โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (Rabies)
โรคนี้ที่น่ากลัวเพราะไม่ได้เกิดจากสุนัขแต่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถเกิดได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ที่นิยมเรียกว่าโรคพิษสุนัขบ้า เพราะส่วนใหญ่มักพบในสุนัขหรือแมว เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับคนมาก หากเราเผลอไปโดนสัตว์ตัวที่ติดเชื้อโรคนี้มา ไม่ว่าจะโดนกัด ข่วน หรือถูกเลียบริเวณที่มีแผลถลอกของเรา หรือไม่ก็ไปเล่นกัน แล้วน้ำลายสัตว์ที่มีเชื้อเข้าตา ปาก หรือจมูก ถ้าไม่ได้รับการรักษาตะมีอาการภายใน 15-60 วัน บางรายอาจนานเป็นปี ที่เรากังวลมากที่สุดกับภายนี้เพราะว่าเมื่อเป็นโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มียารักษา ทำให้เสียชีวิตทุกรายภายใน 2-7 วันหลังแสดงอาการ จึงจำเป็นต้องรีบให้วัคซีนทันที เมื่อได้รับเชื้อและแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทราบทันทีเพื่อเข้าควบคุมโรคในพื้นที่ ดังนั้นหากเราไปถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัดหรือข่วน ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆครั้ง เช็ดให้แห้งแล้วใส่ยาแผลสดและรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและฉีดวัคซีนป้องกันต่อไป
เมื่อเภสัชกรได้มาเตือนให้ได้ทราบแล้ว ก็ขอให้เราหมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากมีอาการต่างๆ ตามที่เล่ามา ไม่แน่ใจก็ไปขอคำปรึกษาเบื้อต้นจากร้านยาใกล้บ้านได้ ยังไงๆ เราก็ไม่อาจหนีความร้อนจากธรรมชาติที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมา แต่เราสามารถรักษาสุขภาพร่างกายไปพร้อมกับดูแลจิตใจให้ผ่อนคลายจะทำให้ร่างกายและใจไม่ร้อนไปกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวที่กำลังเดินทางมาถึง
ที่มา: ภก.อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล. “โรคร้ายที่มากับหน้าร้อน” วารสารยา สมัยที่ 15 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1 มกราคม-กุมภาพันธ์ 2555
กิจกรรม/ข่าวสาร/บทความ
- ข่าวสาร (4)
- งานอีเว้นท์ (3)
- บริจาค/จิตอาสา (1)
- รู้ทันสุขภาพ (11)